เมื่อเราไปต่างประเทศ แน่นอนว่าการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารธุระต่างๆ แต่รูปแบบการสื่อสารมีทั้งใช้อินเตอร์เน็ตและการโทรโดยตรง หลายๆคนเมื่อไปต่างประเทศมีทางเลือกให้ใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Pocket Wifi หรือ Simcard ในบทความนี้ผมจะพูดถึงตัว Simcard กัน เพราะหลายๆคนเววลาไปต่างประเทศอาจไม่สะดวกที่จะใช้งาน Pocket Wifi เนื่องจากต้องพกพาเพิ่มเติม ซึ่งไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ตัว Simcard สามารถใส่เครื่องละใช้งานได้เลย แต่ทั้งนี้ในปัจจุบันมี Simcard ให้เลือกมากมาย ทั้งซิม Simcard แบบ Local Sim และ Roaming Sim เราจะมาดูกันว่า Simcard สองตัวนี้ แตกต่างกันอย่างไร และมีข้อดี ข้อเสียยังไงบ้าง

Local Sim

Local Sim หรือ ซิมท้องถิ่น ซิมในประเทศนั้นๆ เป็นซิมที่เปิดให้บริการและมีคลื่นสัญญาณของตัวเองในประเทศนั้นๆ ซึ่งซิมเหล่านี้มักขายให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย มีแพคเกจให้เลือกหลากหลายกันออกไป สามารถซื้อได้จากสนามบินภายในประเทศนั้นๆ หรือซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายต่างๆ

ข้อดีของ Local Sim

• จับคลื่นสัญญาณได้ดี เนื่องจากเป็นสเปคซิมเป็นของทางเจ้าของคลื่นสัญญาณผู้ให้บริการในประเทศนั้นโดยตรง
• มีแพคเกจให้เลือกหลากหลายทั้งแบบจำกัดปริมาณ และแบบไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน(Unlimit)
• ได้ความเร็วที่คงที่ และใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ในปริมาณที่มากกว่า Roaming Sim
• เทียบค่าบริการถูกกว่า Roaming Sim

ข้อเสียของ Local Sim

• อาจมีขั้นตอนยุ่งยากในการซื้อ ต้องใช้เอกสารแสดงยืนยันตัวตนก่อนเปิดใช้บริการ
• ซิมส่วนใหญ่ไม่มีบริการโทรเข้า-ออกแบบใช้เบอร์ ใช้ได้แต่อินเตอร์เน็ต หากต้องการติดต่อสื่อสารอาจต้องใช้การโทรเข้า-รับสาย ผ่าน Internet (ผ่านแอพเช่น Line, Skype เป็นต้น)
• ความยุ่งยากของการตั้งค่าและใช้งาน บางซิมอาจไม่มีคู่มือภาษา English ให้ใช้ นอกจากภาษาท้องถิ่น

Roaming Sim

Roaming Sim หรือซิมที่ใช้การจับสัญญาณแบบ Roaming ซิมประเภทนี้เราสามารถซื้อหาในประเทศไทยก่อนการเดินทางได้เลย หรือจะใช้งานซิมที่เราใช้งานอยู่ปัจจุบันก็ได้แล้วขอเปิดใช้บริการ Roaming ในต่างประเทศกับผู้ให้บริการในประเทศไทย เมื่อเราเดินทางไปต่างประเทศก็เปิดเครื่องเพื่อให้มือถือจับสัญญาณท้องถิ่นนั้นๆ ตามที่ผู้ให้บริการเช่าสัญญาณกับทางค่ายท้องถิ่น (แนะนำก่อนการเดินทางตรวจสอบกับทางค่ายผู้ให้บริการในไทยที่เราใช้งานอยู่ว่ารองรับสัญญาณในประเทศที่เราจะเดินทางไปหรือไม่)

ข้อดีของ Roaming Sim

• สามารถหาซื้อได้ง่ายภายในประเทศก่อนการเดินทาง หรือจะใช้ซิม-เบอร์เดิมที่เราใช้งานอยู่ก็ได้เพียงแค่แจ้งขอเปิดใช้บริการ Roaming กับผู้ให้บริการ
• สะดวกสบายในการใช้งาน เพียงเปิดให้มือถือจับสัญญาณก็ใช้งานได้เลย
• สามารถใช้เบอร์เดิมได้ สะดวกเมื่อมีคนจะติดต่อเราผ่านเบอร์เดิม

ข้อเสียของ Roaming Sim

• ค่าบริการที่แพงเมื่อเทียบกับ Local Sim ทั้งการโทรเข้าและรับสายรวมถึงการใช้งานอินเตอร์เน็ต
• สัญญาณที่จับอาจไม่คงที่ มีแกว่ง เนื่องจากอยู่ที่ว่าผู้ให้บริการของเรา ไปทำข้อตกตลงเพื่อเช่าใช้งานสัญญาณของประเทศนั้นๆ ซึ่งอาจมีหลายคลื่น ทำให้มือถือเลือกจับสัญญาณที่ดีที่สุดในพื้นที่นั้นๆ หากพบเจอสัญญาณที่ดีกว่า สัญญาณอาจสับเปลี่ยนเอง (ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่สเปคมือถือที่มใช้งานด้วย)
• ส่วนใหญ่แพคเกจจำกัดความเร็ว และจำกัดการใช้งาน เนื่องจากเป็นซิมที่ใช้การจับสัญญาณ Roaming ผู้ให้บริการอาจต้องจำกัดข้อใช้งานต่างๆ เช่นความเร็ว หรือปริมาณการใช้งาน ต่างๆ ตามข้อตกลงและเงื่อนใขของผู้ให้บริการ

สรุปแล้ว หากคนไหนอยากจะใช้งานซิมในต่างประเทศ ก็ลองนคึกดูคับว่า เราสะดวกและสไตร์การใช้งานเราชอบแบบไหนมากกว่า หากต้องการควาเมร็ว และปริมาณการใช้งานที่มาก ในค่าบริการที่ถูก และไม่ได้ใช้งานโทรเข้า-ออก ผ่านเบอร์ แนะนำ Local Sim จะตอบโจทย์มากกว่า แต่หากขี้เกียจ หรือไม่อยากยุ่งยากในการใช้งาน ไม่ค่อยอยากวุ่นวายกับการตั้งค่าซักเทาไหร่ เอาแบบว่าเปิดแล้วใช้งานได้เลย ก็แนะนำเป็น Roaming จะสะดวกมากกว่าคับ ^_^

#pocket wifi ญี่ปุ่น #pocket wifi japan #เช่า wifi ญี่ปุ่น #sim ญี่ปุ่น #sim japan #pocket wifi ยุโรป #sim ยุโรป #pocket wifi สหรัฐอเมริกา #pocket wifi อังกฤษ #sim #pocket wifi รายเดือน #sim รายเดือน #เช่า pocket wifi ญี่ปุ่น #pocket wifi ญี่ปุ่น #pocket wifi ไทย #sim ไทย #เช่า wifi ไทย